Header Ads

  • ข่าวด่วน

    ดินอินทรีย์หรือดินพรุ

     ดินอินทรีย์หรือดินพรุ


    ดินอินทรีย์หรือดินพรุ

    หมายถึงดินที่มีวัสดุอินทรีย์ หรือมีเศษซากพืชทับถมกันปริมาณมาก และเป็นชั้นหนามากกว่า 40 เซนติเมตรจำกผิวดิน พบในพื้นที่ลุ่มน้ำขังหรือมีน้้ำขังนานเกือบตลอดปี ดินและน้้ำเป็นกรดจัดมาก เนื่องจากมีการสะสมเศษชิ้นส่วนพืชเป็นไปได้ช้ำมาก และมักพบชั้นดินเลนของตะกอนน้้ำทะเล
    ที่มีองค์ประกอบของกำมะถันอยู่สูง (ไพไรต์)
    ซึ่งเมื่อชั้นดินนี้แห้งจะแปรสภาพเป็นดินเปรี้ยวจัด
    ลักษณะ
    ดินมีการสะสมเศษชิ้นส่วนพืชที่สลายตัวดี กำลังสลายตัวหรือน้อยเป็นชั้นหนา ในพื้นที่ลุ่มต่ำที่มีน้ำขังตลอดปีหรือเกือบตลอดปี สภาพพืชพรรณธรรมชาติเป็นพรุเสม็ด กกและกระจูด เป็นต้น พบในบริเวณที่ลุ่มน้ำชายฝั่งทะเลของภาคใต้และภาคตะวันออก มีพื้นที่ประมำณ 260,109 ไร่
    ประกอบด้วย กลุ่มดินอินทรีย์ที่มีชั้นวัสดุหนำ 40-100 เซนติเมตรจากผิวดิน และกลุ่มชุดดินอินทรีย์ที่มีชั้นวัสดุอินทรีย์หนามากกว่า 100 เซนติเมตรจากผิวดิน

    ปัญหาของดินอินทรีย์
    ดินอินทรีย์ส่วนใหญ่พบในพื้นที่ลุ่ม มีน้้ำท่วมขังนาน
    อินทรียวัตถุเกาะตัวกันอย่างหลวม ยืดหยุ่นและลอยน้ำเมื่อมีการระบายน้ำออกไป ดินแห้งจะยุบตัวมาก ติดไฟง่าย ดับยากดินและน้้ำเป็นกรดจัดมาก เกิดความไม่สมดุลของธาตุอาหารให้พืชแสดงอาการขาดธาตุอาหาร เช่น ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม สังกะสี ทองแดง โบรอน และ
    แมงกานีส เกิดความเป็นพิษของเหล็กและอะลูมิเนียม เป็นต้น
    ทำให้การเจริญเติบโตของพืชไม่ดี ให้ผลผลิตต่้ำ และมีอายุการเก็บเกี่ยวสั้น นอกจากนี้การจัดการดินทำได้ล้ำบาก และเสียค่าใช้จ่ายสูง

    การปรับปรุงแก้ไข
    การใช้ประโยชน์ที่ดินบนพื้นที่ดินอินทรีย์ มีกำรระบายน้ำออกไปจากพื้นที่
    จะทำให้ดินและน้ำเป็นกรดจัดมาก การปรับปรุงแก้ไขจึงดำเนินการเช่นเดียวกับการปรับปรุงแก้ไขดินเปรี้ยวจัด โดยเลือกพื้นที่บริเวณขอบๆ พรุที่น้ำท่วมไม่สูง มีชั้นวัสดุอินทรีย์บางและมีแหล่งน้ำจืด เป็นต้น
    1. กำรควบคุมระดับน้้ำ ควบคุมระดับน้้ำใต้ดินให้คงที่เพื่อป้องกันการเติมออกซิเจนให้กับสารไพไรต์ที่อยู่ใต้ชั้นดินอินทรีย์ เกิดเป็นสำรประกอบจำโรไซต์ ท้ำให้ดินและน้้ำเป็นกรดจัดมำก ดังนั้นการปล่อยให้พื้นที่ดินอินทรีย์แห้งเกินไปจะเกิดผลเสีย คือดินจะแปรสภาพเป็นดินเปรี้ยวจัด และชั้นดินอินทรีย์จะยุบตัวลงมำกจากการสูญเสียน้ำ สลายตัว และเกิดไฟไหม้

    2. กำรเตรียมดิน ดินอินทรีย์เป็นดินที่ยุบตัวง่าย จึงควรเลือกเครื่องมือ หรือ
    เครื่องจักรกลที่มีน้ำหนักเบำ หรือใช้แรงคนในการเตรียมดินเพื่อปลูกพืช
    3. เลือกชนิดพืชปลูกให้เหมาะสม ปลูกพืชที่ชอบดินกรดและทนต่อสภาพน้ำขังโดยมีการจัดการดินตั้งแต่การเตรียมดิน การค้ำยันไม่ให้พืชล้ม ชนิดพืชที่เหมาะสม ได้แก่ ข้าว และยกร่องปลูกพืช ผัก ข้าวโพด มันเทศ มันส้ำปะหลัง กล้วย ถั่วเขียว มะพร้าว และพืชตระกูลปาล์ม

    4. การใส่วัสดุปูนทางการเกษตร ลดความเป็นกรดของดินโดยใส่วัสดุปูนตำม
    ความรุนแรงของความเป็นกรดของดิน เช่นเดียวกับการจัดการดินเปรี้ยวจัด

    5. การใส่ปุ๋ย ดินอินทรีย์เมื่อแห้งจะเป็นกรดจัดมาก เกิดความไม่สมดุล
    ของธาตุอาหาร และขาดธาตุอาหาร เช่น ขาดธาตุไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม สังกะสี ทองแดง โบรอน และแมงกำนีส เกิดความเป็นพิษของเหล็กและอะลูมิเนียม เป็นต้น จึงควรให้ปุ๋ยที่มีธำตุอำหารดังกล่าวร่วมกับการใช้วัสดุปูน

    ไม่มีความคิดเห็น

    Post Top Ad

    ad728

    Post Bottom Ad

    ad728