ปลูกผักให้งามได้ในดินเปรี้ยวจัด
ปลูกผักให้งามได้ในดินเปรี้ยวจัด
ปลูกผักให้งามได้ในดินเปรี้ยวจัด
พื้นที่ดินเปรี้ยวจัดเป็นที่ลุ่มต่ำ มักประสบปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ ดังนั้นการปรับเปลี่ยนพื้นที่จากการทำนาปลูกข้าวไปปลูกผักนั้น จำเป็นต้องขุดยกร่องแปลงปลูกให้แปลงสูงกว่าพื้นดินเดิม มีคันดินล้อมรอบพื้นที่เพื่อควบคุมน้่ำและป้องกันน้่ำท่วมแปลง และมีการจัดการดินและน้่ำให้เหมาะสมกับชนิดของผักที่ปลูก ซึ่งมีวิธีง่ายๆ ดังต่อไปนี้
1. เริ่มต้นด้วยการเก็บตัวอย่างดินวิเคราะห์ เพื่อจะได้รู้ว่าดินเป็นกรดรุนแรงมากหรือน้อย วัดค่าความเป็นกรดเป็นด่างของดิน (pH) หาค่าความต้องการปูนของดิน
2. ขุดยกร่องแปลงปลูกผักให้สูงจำกระดับดินเดิม 30 - 50 เซนติเมตร ตากดินทิ้งไว้ 20 วัน แล้วย่อยดินให้ละเอียด
3. ปรับปรุงแก้ไขความเป็นกรดด้วยวัสดุปูน เช่น ปูนมาร์ล ปูนขาว ปูนโดโลไมท์ อัตราตามความต้องการปูนของดิน เพื่อปรับค่ำ pH ให้อยู่ในช่วงที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของผัก แต่ละชนิด โดยหว่านปูนทั่วแปลง สับคลุกเคล้ำกับดิน รดน้่ำให้ดินชื้น หมักดินทิ้งไว้ประมาณ 20 วัน ย่อยดินแล้วปลูกพืชตระกูลถั่ว (ถั่วพุ่ม ปอเทือง) เพื่อสับกลบเป็นปุ๋ยพืชสด
4. ปรับปรุงเนื้อดินให้ร่วนซุย เพื่อให้ดินมีการระบายน้ำดี ด้วยการใส่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก อัตรา 2-4 ตันต่อไร่
5. ใส่ปุ๋ยหมักที่ขยายเชื้อสารเร่งซุปเปอร์ พด.3 ไร่ละ 100 กิโลกรัม ระหว่างแถวก่อนปลูกผัก ป้องกันโรคเน่ำและเหี่ยวของพืชผัก
6. เพิ่มธาตุอาหารให้กับพืชผัก ซึ่งปริมาณธาตุอาหารที่ผักแต่ละชนิดต้องการจะแตกต่างกันไปตามประเภทของผัก นอกจากการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ปรับปรุงดินแล้ว จำเป็นต้องมีการใช้ปุ๋ยเคมี และฮอร์โมนที่ได้จำกน้่ำหมักชีวภาพที่เตรียมจากสารเร่งซุปเปอร์ พด.2 เพื่อเร่งการเจริญเติบโตของผัก อัตราการใช้และวิธีการใช้ปุ๋ยเคมีสำหรับผักนั้นแตกต่างไปตามชนิดผักที่ปลูก ดังนี้
6.1 ผักที่ปลูกเพื่อรับประทานใบ ได้แก่ ผักบุ้ง คะน้ำ ผักกาดขาว และผักกาดเขียวปลี แนะนำให้ใช้ปุ๋ยสูตร 15-15-15 หรือ 20-20-20 หรือปุ๋ย สูตรอื่นที่มีธาตุอาหารใกล้เคียงกัน อัตรา 100 กิโลกรัม ต่อไร่ โดยแบ่งใส่ 2 ครั้งเท่าๆ กัน ครั้งแรกใส่ก่อนปลูก 1 วัน ครั้งที่ 2 ใส่หลังปลูกแล้ว 20-25 วัน พร้อมกับใส่ปุ๋ยยูเรียอัตรา 20 กิโลกรัมต่อไร่
6.2 ผักที่ปลูกเพื่อรับประทานผล ได้แก่ พริก มะเขือ มะเขือเทศ แตงต่างๆ และถั่วฝักยาว สูตรปุ๋ยที่ใช้ 15-15-15 อัตรา 50-100 กิโลกรัมต่อไร่ โดยแบ่งใส่ 2 ครั้งเท่าๆ กัน ครั้งแรกใส่หลังจากย้ายปลูก 5-7 วัน ครั้งที่ 2 ใส่เมื่อผักเริ่มออกดอกหรือหลังการย้ายกล้าปลูกแล้วประมาณ 30 วัน โดยใส่โรยสองข้างแถวผักแล้วกลบดิน
การฉีดพ่นน้ำหมักชีวภาพ น้ำหมักชีวภาพมีความเข้มข้นสูง ดังนั้นกำรใช้น้ำหมักชีวภาพฉีดพ่นให้กับผัก จำเป็นต้องเจือจางด้วยน้่ำ โดยใช้อัตราน้่ำหมักชีวภาพ 1 ลิตรเจือจางด้วยน้่ำ 1,000 ลิตร แล้วฉีดพ่นหรือรดลงดินให้กับผักในพื้นที่ปลูก 10 ไร่ หรือน้่ำหมักชีวภาพ 8 ช้อนโต๊ะ เจือจางด้วยน้่ำ 4 ปี๊บ (80 ลิตร) ใช้ฉีดพ่นในพื้นที่ 1 ไร่ ทั้งนี้แนะนำให้ใช้ทุก 10 วัน ผักที่ปลูกจะเจริญเติบโตได้ดีและให้ผลผลิตสูง
กองวิจัยและพัฒนาการจัดการที่ดิน กรมพัฒนาที่ดิน 025797562
ไม่มีความคิดเห็น